นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PRIVACY POLICY)


บริษัท เรียลเมดคอร์ป จำกัด
 

     โดยให้ความสำคัญและเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว รวมถึงบุคคลธรรมดาที่ดำเนินการในนามนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (“ท่าน”) และมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความมั่นคงปลอดภัย และเพื่อ   ให้เกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (“การประมวลผล”) รวมถึงสิทธิตามกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ข้อ 1. ขอบเขตการใช้บังคับ
     ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้บังคับกับผู้ซึ่งเป็นลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบุคคลภายนอกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ฯ  โดยที่ ลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา บุคคลภายนอก หมายถึง บุคคลที่เป็นเป้าหมายในการดำเนินงานขาย ให้เช่าหรือใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ ผู้เข้าร่วมแคมเปญหรือกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ ผู้ให้ความสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ ผ่านช่องทางต่าง ๆ และ/หรือ ผู้ใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ ผ่านสื่อออนไลน์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ และหมายความรวมถึง บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ในด้านต่างๆ ผู้มีอำนาจดำเนินการแทนลูกค้าตามกฎหมาย รวมทั้งบุคคลธรรมดาที่ดำเนินการในนาม    นิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กรรมการ ที่ปรึกษา ผู้บริหาร พนักงาน ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัท

ข้อ 2. ข้อมูลส่วนบุคคล
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ให้ความหมายและคำจำกัดความของคำบางคำ ไว้ดังนี้
     “ข้อมูลส่วนบุคคล” (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้  ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งได้แก่ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต ที่อยู่อีเมล (email address) IP Address, Cookie ID เป็นต้น ทั้งนี้ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถึงแก่กรรม
     “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” (Sensitive data) หมายถึง หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
     ซึ่งบริษัทฯ ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยบริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายอนุญาต
     ทั้งนี้ ต่อไปในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หากไม่มีการกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” ให้รวมกันเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”
     กรณีบริษัทฯ ได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน หรือบริษัทฯ นำข้อมูลของท่านออกจากบัตรประจำตัวประชาชนด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนในการก่อนิติสัมพันธ์ทางกฎหมาย และ/หรือการทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัทฯ ข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวบริษัทฯ ไม่มีความประสงค์จะเก็บข้อมูลดังกล่าว จึงขอให้ท่านดำเนินการขีดฆ่า หรือปิดทึบข้อมูลส่วนนั้น ทั้งนี้ หากท่านมิได้ดำเนินการตามที่แจ้ง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการดำเนินการขีดฆ่า หรือปิดทึบข้อมูลดังกล่าว เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน
     “การประมวลผล” หมายถึง การดำเนินการใดๆ ของบริษัทฯ ซึ่งได้กระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรไม่ว่าโดยวิธีการอัตโนมัติหรือโดยวิธีการอื่นใดเพื่อที่จะเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทั้งนี้ การปฏิบัติการหรือส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการซึ่งได้กระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว กระทำได้ตราบเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และอยู่ภายในขอบเขตที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้กระทำได้
     “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Subject : DS) หมายถึง บุคคลที่ข้อมูลสามารถระบุตัวตนได้ ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่รวบรวมข้อมูล ถือข้อมูล หรือสร้างข้อมูลขึ้นเอง และจะต้องไม่เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
     “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Controller : DC) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอำนาจในการตัดสินใจ เพื่อที่จะเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
     “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Processor : DP) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล แต่จะต้องไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
     “เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Protection Officer : DPO) หมายถึง เจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาดูแลและให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดในองค์กร โดยมีหน้าที่ตั้งแต่การให้คำแนะนำแก่ผู้ควบคุมข้อมูล       การตรวจสอบการรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานกับคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น

ข้อ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
     บริษัทฯ  ได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไป ทั้งนี้ได้จำแนกประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จัดเก็บไว้ ดังนี้

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลรายละเอียด
ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐานเช่น คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ รูปถ่าย วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ เลขที่ประจำตัวประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ สถานภาพการสมรส 
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเช่น เชื้อชาติ เป็นต้น
ข้อมูลอื่น ๆ(ก) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ชื่อบัญชีไลน์ (LINE ID) ชื่อบัญชีเฟสบุ๊ก (Facebook ID) บัญชีกูเกิล (Google ID) และบัญชีผู้ใช้ในเว็บไซต์โซเชียลมีเดียอื่น ๆ ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
(ข) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร
(ค) ข้อมูลการติดต่อกับบริษัทฯ (Communication Data) เช่น ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับบริษัทฯ
(ง) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การบันทึกภาพนิ่ง หรือวิดีโอ
(จ) ข้อมูลการศึกษาและการอบรม เช่น การศึกษา หลักสูตรที่เข้าอบรม
(ฉ) ข้อมูลบริษัทที่ทำงาน เช่น ชื่อสถานที่ทำงาน ที่อยู่ของที่ทำงาน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ชื่อผู้บังคับบัญชา
(ช) ข้อมูลนิสัย (Behavior Data) และข้อมูลความชอบส่วนบุคคล เช่น กิจกรรม อาหาร เครื่องดื่ม ของหวาน เป็นต้น


ข้อ 4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่านผ่านกระบวนการ ดังนี้
     4.1 ข้อมูลที่ท่านให้กับบริษัทโดยตรง : เช่น ข้อมูลที่ได้รับจากการทำสัญญา ข้อมูลที่ปรากฏในการสมัครใช้บริการ รวมถึงเอกสารประกอบต่าง ๆ คำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลอื่น คำขอใช้บริการหรือคำขอข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ ข้อมูลการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ข้อมูลที่ใช้สมัครลงทะเบียนสร้างบัญชีการใช้งาน (Account) หรือ โปรไฟล์ (Profile) กับบริษัทฯ เพื่อใช้บริการของบริษัทฯ ทั้งทางช่องทางออฟไลน์และช่องทางออนไลน์ ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในรูปแบบหนังสือหรือการสนทนารวมถึงภาพและเสียง ตลอดจนข้อมูลที่ท่านให้กับบริษัทฯ ผ่านการทำแบบสำรวจ การให้ข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลที่ท่านเข้าใช้บริการ ณ ที่สำนักงานใหญ่หรือสำนักงานสาขา ศูนย์บริการลูกค้า หรือบูธจัดแสดงสินค้าหรือบริการ เป็นต้น
     4.2 ข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บอัตโนมัติ : เมื่อท่านเข้าใช้บริการผ่านระบบของบริษัทฯ หรือเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป เป็นต้น ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “คุกกี้” หรือ เทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะการทำงานเหมือนหรือคล้ายกัน
     4.3 ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอก หรือข้อมูลสาธารณะที่เชื่อถือได้ : กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แหล่งข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการข้อมูล (Data Providers) หน่วยงานหรือบริษัทฯ หรือสมาคมหรือสมาพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่าน เป็นต้น
     4.4 ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับบริษัท :  ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับบริษัทฯ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน คู่ค้า คู่สัญญาหรือพันธมิตรของบริษัทฯ  ผู้รับมอบอำนาจหรือผู้กระทำการแทน หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมายจากบริษัทผ่านทางช่องทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การประชุม การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) โทรสาร ไปรษณีย์ VDO Call Service หรือโดยวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลในรูปข้อความ ตลอดจนภาพและเสียง
     4.5 ข้อมูลที่ท่านร่วมทำกิจกรรมกับบริษัท : ในส่วนของกิจกรรมทางการตลาด การประกวด การจับฉลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรืองานแข่งขันต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของบริษัทฯ และ/หรือคู่ค้าหรือพันธมิตรที่ร่วมทำกิจกรรมกับบริษัทฯ หรือบริษัทฯ มอบหมายหรืออนุญาตให้ทำกิจกรรมดังกล่าว
     เมื่อท่านตกลงและยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่บริษัทฯ  ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ผู้ใช้บริการ คู่สัญญา ไม่ว่าทางธุรกิจหรือทางอื่นใด เช่น สมาชิกในครอบครัว เป็นต้น    ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และท่านรับรองและรับประกันว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวนี้

ข้อ 5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล ดังต่อไปนี้
     5.1 การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญาจ้างงาน สัญญาเช่าพื้นที่ สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาอื่นใด หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ/ใบสมัครของท่านก่อนเข้าทำสัญญา ตามแก่กรณี
     5.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายประกันสังคม กฎหมายเงินทดแทน กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
     5.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของท่าน
     5.4 ความยินยอม (Consent) บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่าน กรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ขอความยินยอม หรือบริษัทฯ ไม่มีเหตุให้ใช้ฐานการประมวลผลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาจากท่านได้

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการรายละเอียดฐานในการประมวลผลข้อมูล
1. เพื่อการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาเพื่อการขายสินค้า และ/หรือ บริการให้แก่ท่าน หรือปฏิบัติตามสัญญาใด ๆ ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา ซึ่งรวมถึงการจัดการ account ของท่าน ข้อมูลการสมัครเข้าเป็นสมาชิก จัดส่ง การดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน การบริการหลังการขาย และการคืนสินค้า และดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ท่านได้รับสินค้าและ/หรือ บริการ หรือตามที่ท่านได้ร้องขอ• การปฏิบัติตามสัญญา
2. เพื่อการบริหารจัดการด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์โฆษณาประชาสัมพันธ์ ทำแคมเปญทางการตลาด วิเคราะห์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และติดต่อลูกค้าเพื่อให้คำแนะนำหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจัดการด้านสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งท่านเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือปรากฏเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ • ความยินยอม
3. เพื่อการบริหารจัดการด้านปฏิบัติการ (Operation) และการดูแลลูกค้าหลังการขายตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
• ความยินยอม
เพื่อนำมาพัฒนาช่องทางการให้บริการออนไลน์ของบริษัทฯ  เพื่อให้ท่านได้รับบริการจากบริษัทฯ  อย่างมีคุณภาพ รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานหรือถ่ายโอนข้อมูลในบัญชี เลขที่สมาชิก หรือรหัสส่วนตัวต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้ให้บริการต่อท่าน ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ และ/หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ได้มากกว่า 1 เครื่อง และเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดูแลตรวจสอบการเข้าใช้งานบัญชี เลขที่สมาชิก หรือรหัสส่วนตัวต่าง ๆ ของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเข้าใช้งานโดยบุคคลอื่น หรือการใช้งานโดยฉ้อฉล หรือในทางมิชอบ รวมถึงเพื่อปรับปรุงการให้บริการของบริษัทฯ ให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น• การปฏิบัติตามสัญญา
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
4. การบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจัดทำระบบสารสนเทศเพื่อเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล เชื่อมต่อข้อมูลกับลูกค้า ตัวแทน • การปฏิบัติตามกฎหมาย
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
• ความยินยอม
จัดทำและให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประมวลผลข้อมูลของลูกค้าจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของบริษัทฯ  เช่น Facebook, Linkedin, Twitter, Youtube, Line เป็นต้น• การปฏิบัติตามสัญญา
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
• ความยินยอม
5. เพื่อให้สามารถจัดการ พัฒนา และดำเนินการ ใด ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นการบริหารจัดการสินค้า และ/หรือ บริการ (รวมถึงเว็บไซต์ และ แอปพลิเคชัน) การตรวจและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าและผู้ที่อาจเป็นลูกค้า การบำรุงรักษาและการใช้ระบบไอที• การปฏิบัติตามกฎหมาย
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
• ความยินยอม
การวัดประสิทธิภาพของนโยบายทางการตลาดของบริษัทฯ และเพื่อ             วัดประสิทธิผลของการโฆษณาของบริษัทฯ ผ่านช่องทางต่าง ๆ • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
• ความยินยอม
6. การบริหารจัดการงาน เรื่องร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ และการบริหารความเสี่ยงการตรวจสอบ การสืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต การฉ้อโกง หรือการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน• การปฏิบัติตามสัญญา
• การปฏิบัติตามกฎหมาย
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
การดำเนินการใด ๆ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี หรือดำเนินมาตการใด ๆ เพื่อใช้สิทธิตามสัญญาและตามกฎหมาย การระงับข้อพิพาทหรือข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบริษัทฯ กับท่านอันเกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัทฯ • การปฏิบัติตามสัญญา
• การปฏิบัติตามกฎหมาย
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
ข้อ 6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัทฯ และบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้
     6.1 ภายในบริษัทฯ : ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัทฯ เฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น โดยบุคคลหรือทีมงานของบริษัทฯ จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็นและเหมาะสมเท่านั้น
          6.1.1 เจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่น ๆ เฉพาะที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ
          6.1.2 ผู้บริหาร หรือผู้บังคับบัญชาโดยตรงของท่าน ที่มีความรับผิดชอบในการบริหารหรือตัดสินใจเกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางด้านงานบุคคล
          6.1.3 แผนกต่าง ๆ เช่น แผนกบริการลูกค้าและเทคนิค แผนกกฎหมาย แผนกบัญชีและการเงิน แผนกจัดซื้อ แผนกการตลาดโฮมแคร์และเทคนิค แผนกพัฒนาธุรกิจ เป็นต้น
     6.2 ภายนอกบริษัทฯ : ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับองค์กรภายนอก ดังนี้
          6.2.1 บริษัทในเครือ และพันธมิตร
          6.2.2 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมศุลกากร กรมทรัพย์สินทางปัญญา รัฐบาล ศาล กรมบังคับคดี หรือหน่วยงานอื่นใดที่อาศัยอำนาจตามกฎหมาย
          6.2.3 ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการสำหรับดำเนินการใด ๆ เช่น ฝึกอบรม การประเมินผลเพื่อการบริหารจัดการองค์กร ผู้ตรวจสอบภายนอก ที่ปรึกษาในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้เมื่อบริษัทฯ ใช้บริการจากหน่วยงานภายนอกบริษัทฯ จะต้องมั่นใจว่าผู้ให้บริการเหล่านั้นได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย และข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการปกป้องโดยมาตรการด้านเทคนิคและองค์กรที่เหมาะสม
          6.2.4 องค์กรหรือบุคคลภายนอก โดยบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่าน ให้กับองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่มีการติดต่อสอบถามเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของท่าน และเพื่อที่จะได้ให้บริการหรือจัดหาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของท่าน 

ข้อ 7. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
     7.1 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยฐานความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทฯ ได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
     7.2 หากท่านเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียด ผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัทฯ ทราบ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย
     ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมดหรือบางส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยแจ้งให้บริษัทฯ ทราบตามช่องทางการติดต่อข้างท้ายนโยบายนี้
     หากท่านเพิกถอนความยินยอมการที่ท่านยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอันเนื่องมาจากเหตุผลหรือวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่สำหรับการดำเนินการด้านการตลาด บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ หรือบริการ และ/หรือ บริหารจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่าง ๆ หรือ ความสัมพันธ์ และ/หรือ บัญชีของท่านที่มีกับบริษัทฯ ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านเสียประโยชน์ในการใช้บริการของบริษัทฯ ในระดับเดียวกับกรณีที่ท่านให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบริษัทฯ

ข้อ 8. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
     8.1 บริษัทฯ อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
     8.2 บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือคลาวด์ (Cloud) ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และบริษัทฯ จะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
     8.3 กรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงบริษัทฯ จะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

ข้อ 9. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
     บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทฯ ยังมีความสัมพันธ์กับท่านในฐานะลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญาของบริษัทฯ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมายหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของบริษัทฯ
     ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
     ทั้งนี้ บริษัทฯ มีมาตรการจัดเก็บข้อมูลของท่านทั้งในรูปแบบเอกสารฉบับสำเนา ฉบับจริงและเอกสารอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในสถานที่ที่ได้รับความคุ้มครองอย่างปลอดภัย โดยมีการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลและสถานที่จัดเก็บข้อมูล

ข้อ 10. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ดังนี้
     10.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่าน ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
     10.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทฯ ได้
     10.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ได้ตามที่กฎหมายกำหนด
     10.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามกฎหมายกำหนด
     10.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
     10.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามกฎหมายกำหนด
     10.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทฯ มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน
     10.8 สิทธิในการรับทราบกรณีมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ อาจมีการพิจารณาทบทวนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความเหมาะสม ในบางครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม
     10.9 สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
     ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่ง บริษัทฯ สงวนสิทธิ ที่จะปฏิเสธหรือไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลมีข้อจำกัดโดยเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะอย่าง อาจส่งผลให้ ไม่สามารถได้รับบริการจากบริษัทฯได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งบริษัทฯ อาจจะไม่สามารถทำงานร่วมกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือให้บริการใด ๆ ได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ยินยอมให้ข้อมูลที่บริษัทฯ ต้องการ

ข้อ 11. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
     บริษัทฯ กำหนดให้มีมาตรการที่เหมาะสม และเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ข้อ 12. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก 
     ในการใช้บริการแอบพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของบริษัทฯ  อาจมีลิงก์เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม และเว็บไซต์อื่นที่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ บริษัทฯ พยายามที่จะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบในเนื้อหาหรือมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่นนั้น เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นประการอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ท่านให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกนั้นจะถูกเก็บรวบรวมโดยบุคคลดังกล่าวและอยู่ภายใต้ ประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกดังกล่าว (หากมี) ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทฯ ขอให้ท่านศึกษาและปฏิบัติตามประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัทฯ

ข้อ 13. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
     บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบด้วยการเผยแพร่ผ่านการประกาศที่เหมาะสมของบริษัทฯ

ข้อ 14. ในกรณีที่ท่านปฏิเสธการยินยอมหรือไม่ให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
     บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย หรือเพื่อการเข้าทำสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทฯ หากท่านไม่ยินยอมให้บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านยังคงสามารถใช้บริการของบริษัทฯ ได้ ซึ่งอาจทำให้ท่านได้รับความสะดวกจากการใช้บริการน้อยลง เนื่องจากบริษัทฯ ไม่ได้รับความยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ข้อ 15. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
     บริษัทฯ ได้มีการดําเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) และผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller : DC) เพื่อตรวจสอบการดําเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 16. กระบวนการประสานงานเมื่อข้อมูลรั่วไหล
     ในกรณีที่มีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้นภายในบริษัท ผู้ที่ทราบเหตุจะต้องมีการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะทำการตรวจสอบถึงสาเหตุที่มาและระบุจุดต้นเหตุของการรั่วไหล รวมทั้งออกมาตรการเยียวยาเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหล พร้อมทั้งแจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนดโดยไม่ชักช้า

     เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่จดบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลที่รั่วไหล และประเมินความเสี่ยง อาจพิจารณาถึงผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากหากพิจารณาแล้วไม่มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสามารถทำการจดบันทึกไว้และอาจไม่จำเป็นต้องมีการแจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือแจ้งต่อสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลถึงเหตุการณ์การรั่วไหลที่เกิดขึ้นแต่หากผลของการประเมินแสดงให้เห็นว่าการรั่วไหลของข้อมูลอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงสูง ซึ่งมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีการดำเนินการแจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรวมทั้งแนวทางในการเยียวยา อีกทั้งแจ้งเหตุละเมิดของข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้าภายในระยะเวลา 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมง นับจากทราบเหตุการณ์การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 17. ช่องทางการติดต่อ
     หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562    ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
     E-mail : Hr@realmed.co.th
     เบอร์โทรศัพท์ : 02-096-6669 ต่อ 5
     ติดต่อผ่านแบบฟอร์มได้ที่ www.realmedcorp.com/contactus  หรือ

บริษัท เรียลเมดคอร์ป  จำกัด

ที่อยู่ เลขที่ 31 ซอยบรมราชชนนี 4 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

โทร 02 096 6669


ข้อ 18. กฎหมายที่ใช้บังคับ

     ท่านรับทราบและตกลงให้ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ อยู่ภายใต้การบังคับการตีความตามกฎหมายไทยและศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น

ข้อ 19. การลบบัญชีผู้ใช้งาน
     กรณีที่ผู้ใช้ต้องการลบบัญชีผู้ใช้งาน สามารถแจ้งบริษัทฯ เพื่อร้องขอการลบบัญชีผู้ใช้งานได้ตลอดเวลา โดยการส่งอีเมลที่ Hr@realmed.co.th เพื่อดำเนินการลบบัญชีผู้ใช้ หลังจากที่ได้ลบบัญชีผู้ใช้งานแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเซิร์ฟเวอร์จะถูกล้างออกและไม่สามารถกู้คืนได้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้